เมื่อเราพูดถึงคำว่า “ทองเค” แล้ว หลายท่านอาจคิดว่าเป็นทองปลอม หรือเครื่องประดับชุบทอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทองเค ก็คือทองคำแท้ประเภทหนึ่ง ตัวอักษรเค (K) ตัวนี้ ย่อมาจากคำว่า Karat (กะรัต) ซึ่งเป็นหน่วยของการวัดความบริสุทธิ์ของ ทองคำ เป็นหน่วยมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก
สำหรับคนไทยอาจคุ้นชิน กับการคิดค่าความบริสุทธิ์ของทองเป็นเปอร์เซ็นต์มากกว่า เช่น ทองรูปพรรณ หรือทองแท่ง 96.5% ที่ขายกันอยู่ตามร้านทอง ซึ่งหากเปลี่ยนหน่วยเป็นเคแล้ว จะมีค่าเท่ากับ 23.16 K
ซึ่งหน่วยเคจะมีเปอร์เซ็นต์ทองต่าง ๆ ดังนี้
24K เท่ากับ ทอง 99.99%
23K เท่ากับ ทอง 96.5%
22K เท่ากับ ทอง 95%
21K เท่ากับ ทอง 91.5%
20K เท่ากับ ทอง 90%
18K เท่ากับ ทอง 75%
14K เท่ากับ ทอง 58.3%
10K เท่ากับ ทอง 41.6%
9K เท่ากับ ทอง 37.5%
ปกติแล้ว ทอง 100% (หรือ 99.99%) และ ทอง 96.5% จะมีความอ่อนมาก จึงไม่เหมาะกับการทำเป็นเครื่องประดับ ที่ต้องฝังเพชรพลอย เพราะจะทำให้หลุดออกจากตัวเรือนได้ง่าย ทอง 96.5% จึงนิยมนำมาทำเป็น ทองแท่ง และทองรูปพรรณมากกว่า
ดังนั้น ร้านจิวเวลรี่ในบ้านเรา จึงนิยมใช้ทอง 9K (37.5%) และ 18K (75%) ในการทำตัวเรือน เพราะมีความแข็งแรง ซึ่งความแข็งแรงนี้ เกิดจากการนำทองมาผสมกับโลหะอื่นๆ เช่น เงิน ทองแดง สังกะสี ในอัตราส่วนที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลต่อสีของทองด้วย
โลหะมีค่า ที่ใช้ทำเครื่องประดับมี 6 ชนิด ได้แก่ ทองคำ , ทองคำขาว , โรสโกลด์ , นิกเกิลขาวทอง , แพลลาเดียมไวท์โกลด์ และ แพลตตินัม
1. ทองคำบริสุทธิ์ 100% คือ 24 กะรัต
14 กะรัต (14K) คือ 14/24 กะรัต = ทอง 58.5%
18 กะรัต (18K) คือ 18/24 กะรัต = ทอง 75%
2. ทองคำขาว คือทองบริสุทธิ์ ที่ถูกผสมกับทองแดง เงิน และสังกะสี
3. โรสโกลด์ คือทองบริสุทธิ์ ที่ถูกโลหะผสมกับทองแดงในปริมาณที่มากกว่า เงิน และ สังกะสี จึงได้สีดอกกุหลาบ
4. นิกเกิลขาวทอง ก็เช่นเดียวกับโรสโกลด์ สีของทองคำขาวมีสาเหตุมาจากโลหะอื่น ๆ ในส่วนผสม ในโลหะผสมทองคำขาวแบบดั้งเดิม นิกเกิลถูกใช้เป็นสารฟอกสี เพื่อทำให้สีเหลืองของทองหมดไป แต่โลหะผสมนี้ยังคงมีสีเหลืองเล็กน้อย และโดยทั่วไปจะชุบโรเดียม เครื่องประดับทองคำขาวในเชิงพาณิชย์ ส่วนใหญ่มีการชุบโรเดียมเป็นชั้น ๆ แม้ว่าจะทำให้พื้นผิวของโลหะมีสีขาวสว่าง แต่ในที่สุดก็จะเสื่อมสภาพ สีซีดลงตามกาลเวลา และต้องทำชุบซ้ำทุกๆ 1-2 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเคมีของร่างกาย และพฤติกรรมการสวมใส่ ของผู้สวมใส่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งทุก ๆ 6 เดือน
5. แพลลาเดียมไวท์โกลด์ เป็นการผสมของทองคำขาว กับ เงิน และทองแดง และถูกสารฟอกขาว เพื่อทำให้สีเหลืองของทองหมดไป แพลเลเดียม Palladium เป็นภาคส่วนหนึ่งของ Platinum Metals Group (PMG) บนตารางธาตุ และหายากยิ่งกว่าทองคำ เป็นโลหะสีขาวอมเทาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพียงแค่สัมผัสเข้มกว่าทองคำขาว โดยทั่วไปจะใช้ในโลหะผสมที่เป็นแพลเลเดียมบริสุทธิ์ 95% และผสมกับสมาชิก PMG อื่นๆ เช่น รูทีเนียม แพลเลเดียมเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตเครื่องประดับ ความสามารถในการอ่อนตัวทำให้จับเพชรเข้าที่ได้ดีเยี่ยม ในขณะที่ยังคงเป็นโลหะที่ทนทานมาก ทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่าทองคำ หรือ ทองคำขาว สีขาวตามธรรมชาติ หมายความว่าไม่จำเป็นต้องชุปโรเดียม จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ส่วนสนนราคาของแหวนแพลเลเดียม มักจะอยู่ระหว่างราคาทองคำขาว 14K และ 18K
6. แพลตตินัม คือทองคำขาวเป็นโลหะมีค่าหายาก มีสีขาวอมเทาตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับแพลเลเดียมแพลทินัม เป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่จำเป็นต้องชุบโรเดียม แพลตตินั่มยังเป็นโลหะมีค่าที่มีความหนาแน่นสูงที่สุดทำให้เป็นโลหะที่มีความทนทานสำหรับการออกแบบลวดลายที่ซับซ้อน ความหนาแน่นนี้ยังนำไปสู่การตั้งเพชรขนาดใหญ่เนื่องจากง่ามที่ทำจากแพลตตินัมมีความทนทานมากกว่าที่ทำจากทองคำขาวแบบธรรมดา คุณสมบัติทางกายภาพนี้ทำให้แพลตตินัม เหมาะสำหรับการออกแบบเครื่องประดับที่เจ้าของมีความต้องการให้คงอยู่หลายชั่วอายุคน แม้ว่าจะเป็นโลหะมีค่าที่มีราคาแพงที่สุด แต่เครื่องประดับแพลทินัมก็ควรค่าแก่การพิจารณาเนื่องจากเป็นของหายากความบริสุทธิ์และความหนาแน่น
ทองคำ ทองคำขาว และทองเค ก็ล้วนมีเสน่ห์และความพิเศษที่ต่างกัน การเลือกแบบใด ขึ้นอยู่กับสไตล์ และความต้องการ หากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจสั่งซื้อเครื่องประดับทอง กับ Waenthong Diamonds สามารถเข้าชมสินค้า และบริการ ได้ที่เวบไซต์ Waenthong Diamonds หรือติดต่อเราผ่านช่องทาง Line, Facebook, Facebook Messenger หรือทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดไหน แบบไหน หรือมีแบบที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว เราก็มีบริการทำตามแบบที่ต้องการ หรือออกแบบให้ใหม่ ด้วยโปรแกรม 3D เพื่อให้คุณลูกค้าได้เห็นงาน ก่อนขึ้นชิ้นงานจริง Waenthong Diamonds เรายินดีให้คำแนะนำ และบริการคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ
Copyright © 2024 Waenthong Diamonds