ราคาทองวันนี้ 4 ต.ค. 2567

ราคาทองวันนี้

ราคาทองวันนี้

ราคาทองวันนี้ 4 ต.ค. 2567

 

 

 

"ราคาทองวันนี้" มาจากไหน ใครกำหนด?

ราคาทองวันนี้

เคยสงสัยกันไหมคะ ว่า ราคาทองวันนี้ ที่หลายๆ คนคอยติดตามดู หรือ ราคาทองคำที่เราซื้อ-ขายในแต่ละวันกันนั้น ใครเป็นผู้กำหนด และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ราคาทองขึ้น-ลง Waenthong Diamonds เราหาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

ทองคำ จัดเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีความสำคัญ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก ความต้องการทองคำไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้เป็นสินทรัพย์ลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนอีกด้วย

ราคาทองคำเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญของสถานการณ์เศรษฐกิจ และการลงทุน ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก การเคลื่อนไหวของราคาทองคำมักสะท้อนถึงสภาวะทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนทางการเงิน และปัจจัยเชิงภูมิรัฐศาสตร์ วันนี้ เราจะมาสำรวจราคาทองคำในประเทศไทย และปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศกันค่ะ

ในประเทศไทย สมาคมค้าทองคำ จะเป็นหน่วยงานที่ประกาศราคาทองคำอย่างเป็นทางการในแต่ละวัน ราคาทองที่สมาคมค้าทองคำประกาศ จะถูกใช้เป็นฐานในการซื้อขายทองคำทั่วประเทศ ซึ่งราคาทองคำนั้น ถูกกำหนดโดยการพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยรวมกัน เช่น

ร้านทอง

1. ราคาทองคำในตลาดโลก เช่น ตลาดทองคำลอนดอน (London Bullion Market Association: LBMA) และตลาดทองคำนิวยอร์ก (New York Mercantile Exchange: NYMEX) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในตลาดโลกก็จะถูกกำหนดโดยหลายๆ ปัจจัย เช่น

  • อุปสงค์และอุปทานทองคำโลก: ความต้องการทองคำในอุตสาหกรรม และการลงทุน
  • เหตุการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลก เช่น สงคราม การเลือกตั้ง หรือการประกาศนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
  • อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
  • การเก็งกำไร: การเก็งกำไรจากนักลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้า

2. ค่าเงินบาท

    2.1 การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ราคาทองคำในตลาดโลกมักจะกำหนดด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำในประเทศไทยจึงถูกปรับตามการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

  • เงินบาทแข็งค่า ทำให้ราคาทองในประเทศลดลง เนื่องจากสามารถซื้อทองคำในตลาดโลกได้ในราคาที่ถูกลง
  • เงินบาทอ่อนค่า ทำให้ราคาทองในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องใช้เงินบาทมากขึ้นในการซื้อทองคำจากตลาดโลก

    2.2 นโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงินของธนาคารกลาง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ที่ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย และปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ มีผลกระทบต่อค่าเงินบาท และในทางอ้อมก็คือ ราคาทองคำ

 

3. อุปสงค์และอุปทานภายในประเทศ

    3.1 การซื้อขายในช่วงเทศกาล ในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญเช่น เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลสงกรานต์ ความต้องการทองคำมักเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากคนไทยนิยมซื้อทองคำเป็นของขวัญ หรือเก็บเป็นสินทรัพย์ ก็จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามไปด้วย

    3.2 การนำเข้าและส่งออกทองคำ หากมีการนำเข้าทองคำมาก ราคาทองในประเทศอาจลดลง เนื่องจากมีปริมาณทองคำมากขึ้น ในทางกลับกัน หากมีการส่งออกทองคำมาก อาจทำให้ราคาทองในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณทองคำในตลาดลดลง

4. ความผันผวนในตลาดการเงินและเศรษฐกิจ

    4.1 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง การเปลี่ยนแปลงในนโยบายเศรษฐกิจ การเกิดวิกฤตการเงิน หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน มักทำให้ราคาทองคำผันผวน

4.2 การลงทุนและการเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ และกองทุนรวมทองคำ ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำทั้งในระดับโลก และในประเทศ การเก็งกำไรในตลาดทองคำอาจนำไปสู่ความผันผวนของราคา

5. ปัจจัยเพิ่มเติมที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

5.1 ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก มีผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุน หากนักลงทุนเชื่อมั่นในเศรษฐกิจมากขึ้น พวกเขาอาจลดการถือครองทองคำ และย้ายเงินทุนไปยังสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองลดลง

5.2 การพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ทองคำ สามารถส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ทองคำ ตัวอย่างเช่น การใช้ทองคำในเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงานทดแทน อาจเพิ่มความต้องการทองคำในตลาด

สร้อยคอทองคำ

ราคาทองคำ ในประเทศไทย ถูกกำหนดโดยการอ้างอิงจากราคาตลาดโลก การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท และปัจจัยต่างๆ เช่นอุปสงค์ อุปทานในประเทศ และความผันผวนต่างๆ ในตลาดการเงิน การเข้าใจถึงกระบวนการกำหนดราคา ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ และการติดตามราคาทองคำวันนี้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับความเสี่ยงในตลาดทองคำที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อขาย และวางแผนการลงทุนในทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในบริการที่ Waenthong Diamonds เราภูมิใจนำเสนอ คือ การล็อคราคาทองคำในวันที่สั่งทำ ซึ่งทำให้คุณลูกค้าได้ราคาทองคำที่แน่นอน โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แม้ว่าในวันรับสินค้าราคาทองคำจะมีการปรับตัวสูงขึ้น การที่เราล็อคราคาทองคำในวันที่สั่งซื้อช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับคุณลูกค้าว่า จะได้ราคาที่พอใจ และดีที่สุด ณ ตอนนั้น โดยไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในภายหลัง เพื่อให้คุณลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำ และสามารถวางแผนในงบประมาณที่คุณลูกค้าต้องการได้

สนใจสั่งซื้อเครื่องประดับทองคำกับ Waenthong Diamonds สามารถเข้าชมสินค้า และบริการได้ที่เวบไซต์ Waenthong Diamonds หรือติดต่อเราผ่านช่องทาง Line, Facebook หรือทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดไหน แบบไหน หรือมีแบบที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว เราก็มีบริการทำตามแบบที่ต้องการ หรือออกแบบให้ใหม่ ด้วยโปรแกรม 3D เพื่อให้คุณลูกค้าได้เห็นงานก่อนขึ้นชิ้นงานจริง Waenthong Diamonds เรายินดีให้คำแนะนำ และบริการคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ

 

 

มรกต

“มรกต” อัญมณีสีเขียวแฝงเสน่ห์ลึกลับน่าครอบครอง

“มรกต” อัญมณีสีเขียวแฝงเสน่ห์ลึกลับน่าครอบครอง

มรกต

 

งานแต่งอภิมหาเศรษฐีอินเดียที่ผ่านมาหลายคนคงสังเกตเห็นว่าแขกที่มาร่วมงาน ครอบครัวบ่าวสาว รวมไปถึงเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั้นต่างก็สวมใส่เครื่องประดับอัญมณีสีเขียวเปล่งประกายโดดเด่นอย่าง “มรกต” แอดมินเห็นรูปบรรยากาศในงานแล้วก็ต้องบอกเลยว่าตะลึง!! เพราะมรกตที่ทุกคนสวมใส่ในงานนั้นดูจากภาพก็รู้ว่ามูลค่าสูงลิ

 

งานแต่งอภิมหาเศรษฐีอินเดีย มรกต

 

มรกต (Emerald) จัดอยู่ในตระกูลเดียวกันกับแร่เบริล (Beryl) เกิดจากการรวมตัวของแร่โครเมียมและวานาเดียม มีสีเขียวใสไล่ระดับไปจนถึงสีเขียวเข้มที่มีมูลค่ามหาศาลในตลาดอัญมณี โดยแหล่งที่มาของมรกตที่ได้รับความนิยม มีชื่อเสียง และมีราคาสูง มีดังนี้

💚 มรกตโคลัมเบีย มีสีเขียวสด เนื้อใส บางชิ้นอาจมีสีเขียวปนเหลืองหรือเขียวปนน้ำเงิน มีลักษณะตัดกันเหมือนฟันของล้อเฟืองที่เรียกว่า “Trapiche Emerald” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมรกตจากโคลัมเบียเท่านั้น

💚 มรกตบราซิล มีสีเขียวอ่อนไปจนถึงสีเขียวเข้มระดับปานกลาง

💚 มรกตรัสเซีย มีสีเขียวปนเหลือง

💚 มรกตแทนซาเนีย มีสีเขียวปนเหลือง บางชิ้นอาจมีสีเขียวปนน้ำเงิน

💚 มรกตซานดาวานา เป็นมรกตขนาดเล็ก มีสีเขียวสด

💚 มรกตแซมเบีย มีสีเขียวสด บางชิ้นอาจมีสีเขียนปนม่วงหรือเขียวเหลือบเท

งานแต่งอภิมหาเศรษฐีอินเดีย มรกต
มรกต


หากลูกค้าต้องการจะซื้อเครื่องประดับมรกตนอกจากจะใช้วิธีเลือกจากแหล่งที่มาแล้วก็ควรสังเกตปัจจัยอื่น ๆ ของมรกตร่วมด้วย ได้แก่

📌 ลักษณะสี 3 ประเภท ได้แก่เฉดสี (Hue) ความสว่างของสี (Tonal ) และ ความเข้มของสี (Saturation) ยิ่งมรกตมีสีเขียวสด หรือสีเขียวอมน้ำเงินดูโปร่งใส ยิ่งมีราคาแพง

📌 ความสะอาด จริงอยู่ที่ความสะอาดของมรกต มีผลต่อราคา แต่เกณฑ์การสังเกตตำหนิ หรือ ความสะอาดของมรกต ไม่มีระบุไว้ชัดเจน เพราะมรกตส่วนใหญ่ล้วนมีตำหนิ ฉะนั้นถ้ามรกตชิ้นไหนมีความใสจนไร้ตำหนิ อาจเป็นของปลอม

📌 คุณภาพการเจียระไน การเจียระไนมรกต ทำได้หลากหลายรูปแบบไม่ต่างจากเพชร ส่วนใหญ่นิยมเจียระไนเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ Emerald Cut

📌 กะรัตซึ่งมีผลต่อราคา เช่นเดียวกับเพชร

สีเขียวของมรกตนั้นโดดเด่น เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ และยังมีความคลาสสิคช่วยขับผิวของผู้สวมใส่ให้เปล่งปลั่ง จึงไม่น่าแปลกใจหากใคร ๆ ต่างก็เลือกสวมใส่มรกตในงานสำคัญ

หากลูกค้า สนใจสั่งซื้อเครื่องประดับกับ Waenthong Diamonds สามารถเข้าชมสินค้า และบริการ ได้ที่เวบไซต์ Waenthong Diamonds หรือติดต่อเราผ่านช่องทาง LineFacebook, Facebook Messenger  หรือทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดไหน แบบไหน หรือมีแบบที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว เราก็มีบริการทำตามแบบที่ต้องการ หรือออกแบบให้ใหม่ ด้วยโปรแกรม 3D เพื่อให้คุณลูกค้าได้เห็นงาน ก่อนขึ้นชิ้นงานจริง Waenthong Diamonds เรายินดีให้คำแนะนำ และบริการลูกค้าทุกท่านค่ะ

 

ทองคำโลก เหลือให้ขุดได้อีกเพียง 19 ปี

ช็อก ‘ทองคำโลก’ เหลือให้ขุดได้อีกเพียง 19 ปี หากไม่พบสายแร่ใหม่

ช็อก ‘ทองคำโลก’ เหลือให้ขุดได้อีกเพียง 19 ปี หากไม่พบสายแร่ใหม่

ทองคำโลก เหลือให้ขุดได้อีกเพียง 19 ปี

แอดมินได้ยินข่าวนี้แล้วใจหายแว๊บกลัวไม่มีทองคำขายให้กับลูกค้า เพราะข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุว่าในปัจจุบั

 

 📌  ปริมาณทองคำทั่วโลกเหลืออยู่ประมาณ 59,000 ตัน

📌  และปริมาณการขุดทองคำเฉลี่ยของทั่วโลกเกิดขึ้นปีละประมาณ 3,000 ตัน

📌  เท่ากับว่าทองคำทั่วโลกนั้นเหลือให้ขุดได้อีกเพียง 19 ปี หากไม่มีการสำรวจพบสายแร่ทองคำใหม่เพิ่มขึ้น

หรือหากไม่ขุดทองใหม่แต่ใช้วิธีการนำทองคำเก่ากลับมาหมุนเวียนหลอมใหม่ก็มีปริมาณเพียงแค่ปีละ 1,000 ตันเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการทองคำทั่วโลกที่สูงกว่า 4,000 ตันต่อปี

ทองคำโลก


จากปัจจัยเหล่านี้คาดว่าทิศทางราคาทองคำในระยะเวลา 1-3 ปีข้างหน้าอาจจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบันนั่นเอง

ได้ยินอย่างนี้หลายคนคงตั้งใจเดินเข้าร้านไปเหมาทองมาเก็บกันแล้วใช่ไหมคะ อย่าลืมคำนึงว่าการลงทุนกับทองคำนั้นเป็นการลงทุนระยะยาว สำหรับนักลงทุนที่จะใช้จังหวะนี้เข้าเก็งกำไรระหว่างวันจะต้องติดตามข่าวความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจประกอบการลงทุน เช่น การประกาศตัวเลขในภาคผลิตและบริการ อัตราเงินเฟ้อ และตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ รวมไปถึงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางใหญ่ ๆ ร่วมด้วยนะคะ



อ่านข่าวเพิ่มเติม https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/world-gold-can-be-mined-for-another-19-years

สนใจสั่งซื้อเครื่องประดับทองคำ กับ Waenthong Diamonds สามารถเข้าชมสินค้า และบริการ ได้ที่เวบไซต์ Waenthong Diamonds หรือติดต่อเราผ่านช่องทาง LineFacebook, Facebook Messenger  หรือทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดไหน แบบไหน หรือมีแบบที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว เราก็มีบริการทำตามแบบที่ต้องการ หรือออกแบบให้ใหม่ ด้วยโปรแกรม 3D เพื่อให้คุณลูกค้าได้เห็นงาน ก่อนขึ้นชิ้นงานจริง Waenthong Diamonds เรายินดีให้คำแนะนำ และบริการคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ

 

ความสะอาดของเพชร

ไขข้อสงสัย..คำที่มักได้ยินเวลาซื้อเพชร FL, IF, VVS, VS, SI คืออะไร? และมีผลต่อราคาเพชรอย่างไร?

ไขข้อสงสัย..คำที่มักได้ยินเวลาซื้อเพชร FL, IF, VVS, VS, SI คืออะไร? และมีผลต่อราคาเพชรอย่างไร?

ความสะอาดของเพชร

FL, IF, VVS, VS และ SI คือตัวย่อความสะอาดของเพชรเรียงจากดีที่สุดไปแย่ที่สุดอ้างอิงตามใบเซอร์ GIA ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
ความสะอาดของเพชร หรือ Clarity เป็นหนึ่งในหลัก 4C ที่ใช้ประเมินคุณภาพของเพชรเพื่อจัดเกรดและกำหนดราคาเพชร โดยวัดจากตำหนิของเพชรว่าเห็นได้ชัดไหม มีจำนวนเท่าไร ขนาดเล็กหรือใหญ่ และมีผลกระทบกับตัวเพชรมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้

ความสะอาดของเพชร FL IF

 

 

 

• FL (Flawless) เป็นเพชรที่ไม่มีตำหนิหรือมลทินใด ๆ ทั้งในเนื้อเพชรและผิวของเพชร เมื่อมองภายใต้กล้องขยาย 10 เท่า

•IF (Internally Flawless) เป็นเพชรที่ไม่มีตำหนิภายในเนื้อเพชรเลยเมื่อมองภายใต้กล้องขยาย 10 เท่า
*** FL และ IF ถือเป็นเกรดสูงสุดของคุณภาพความสะอาดเพชร มีราคาแพงที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพชรคุณภาพดีที่สุดและต้องการเก็บเป็นของสะสม

 

ความสะอาดของเพชร FL IF
ความสะอาดของเพชร vvs1 vvs2

 

 

 

 

 

• VVS1 และ VVS2 (Very very slightly included) เป็นเพชรที่มีตำหนิในเนื้อเพชรน้อยมาก ๆ ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะต้องใช้กล้องกำลังขยาย 10 เท่าส่องจึงจะเห็น สามารถจำแนกได้ 2 ระดับ “ตำหนิน้อยมากจะใช้ VVS1” “ตำหนิที่สามารถเห็นได้ชัดมากขึ้นจะใช้ VVS2” เนื่องจากเพชรเกรดนี้มีราคาค่อนข้างสูงจึงเป็นที่นิยมน้อยกว่า ระดับ VS

 

 

 

 

 

 

• VS1 และ VS2 (Very slightly included) เป็นเพชรที่มีตำหนิในเนื้อเพชรน้อย ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะต้องใช้กล้องกำลังขยาย 10 เท่าส่องเท่านั้น ถือเป็นเกรดเพชรยอดนิยมเพราะมีราคาถูกกว่าเพชร VVS, IF, FL มาก และหากไม่ใช่ผู้เชียวชาญก็จะไม่สามารถเห็นตำหนิของเพชรได้เลย

 

ความสะอาดของเพชร VS1 VS2
ความสะอาดของเพชร SI1 SI2 SI3





• SI1 และ SI2 (Slightly included) เป็นเพชรที่มีตำหนิในเนื้อเพชร สามารถมองเห็นตำหนิภายใต้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า ในบางกรณี หากมองใกล้ ๆ อาจมองเห็นตำหนิขนาดเล็กได้ด้วยตาเปล่า จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเพชรเม็ดใหญ่ในราคาที่จำกัด

 

 

 

 

 

 

• I1 I2 และ I3 (Included) 

เพชรมีตำหนิที่สามารถเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน

imperfect I1 I2 I3

ถึงแม้ความสะอาดของเพชรจะมีผลต่อราคาเพชรเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมองด้วยตาเปล่าก็ยากที่จะเห็นตำหนิเพชรอยู่ดี ดังนั้นเรื่องความสะอาดของเพชรก็ถือเป็นคุณค่าทางจิตใจของผู้ซื้อ เพราะจะมีเพียงผู้สวมใส่เท่านั้นที่จะสามารถทราบรายละเอียดเพชรทั้งหมดของตัวเอง ดังนั้นในกรณีที่มีงบประมาณจำกัดควรแบ่งสัดส่วนในการเลือกเพชรให้เหมาะสม ไม่เลือกโดดเด่นเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้ได้เพชรที่ถูกใจที่สุดในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

สนใจสั่งซื้อเครื่องประดับเพชร กับ Waenthong Diamonds สามารถเข้าชมสินค้า และบริการ ได้ที่เวบไซต์ Waenthong Diamonds หรือติดต่อเราผ่านช่องทาง LineFacebook, Facebook Messenger  หรือทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดไหน แบบไหน หรือมีแบบที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว เราก็มีบริการทำตามแบบที่ต้องการ หรือออกแบบให้ใหม่ ด้วยโปรแกรม 3D เพื่อให้คุณลูกค้าได้เห็นงาน ก่อนขึ้นชิ้นงานจริง Waenthong Diamonds เรายินดีให้คำแนะนำ และบริการคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ

 

เลือกเพชรแบบมือโปร ต้องรู้จักการดู สีของเพชร

เลือกเพชรแบบมือโปร ต้องรู้จักการดู “สีของเพชร”

เลือกเพชรแบบมือโปร ต้องรู้จักการดู “สีของเพชร”

เลือกเพชรแบบมือโปร ต้องรู้จักการดู สีของเพชร

เคยสงสัยไหมคะ… ทำไมเราเห็นเพชรมีขนาด และรูปทรงเหมือนกัน แต่ราคากลับไม่เท่ากัน นั่นก็เพราะยังมีข้อแตกต่างของเพชร ซึ่งเป็นตัวกำหนดเกรด หรือคุณภาพของเพชร ที่ลูกค้าลืมสังเกต ก็คือสีของเพชรหรือที่นิยมเรียกกันว่าน้ำเพชรหากเรามีความเข้าใจในเรื่องสีของเพชร ก็จะช่วยให้สามารถเลือกเพชรแบบที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินมากเกินจำเป็น

ยิ่งเพชรขาว และไร้สีมากเท่าไร ก็จะมีมูลค่าสูงขึ้นตามไปด้วย

โดย สถาบันมณีศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ GIA ได้พัฒนาระบบการจัดลำดับ “สีของเพชร” เพื่อคัดเกรดสี โดยไล่จาก D ไปถึง Z ไว้ดังนี้  

 • เพชรน้ำ 100% (D Color) เป็นเพชรไร้สีโดยสมบูรณ์แบบ จึงมีมูลค่าสูงสุด บางคนรู้จักในนาม เพชรน้ำเอก

เพชรน้ำ 99% (E Color) จัดอยู่ในกลุ่มไร้สี หรือเพชรน้ำเอกเช่นเดียวกัน  เพราะแม้จะใช้แว่นขยายระดับสิบ สังเกตหาสีปนเปื้อนก็ยังทำได้ลำบาก

เพชรน้ำ 98% (F Color)หากตั้งใจซื้อเพชรไร้สีในงบที่เหมาะสม เกรด F คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีความขาวเทียบเท่ากับเกรด D และ E ในราคาที่ถูกลง

• เพชรน้ำ 97% (G Color) เมื่อมองจากหน้าเพชร (ด้านที่กว้างที่สุด) จะดูเหมือนเพชรไร้สี แต่ถ้าหากคว่ำหน้าเพชรลงบนกระดาษสีขาว และสังเกตตรงกลางเพชร จะเห็นสีเหลืองจางๆ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรเท่านั้น จึงจะมองเห็นสี ที่ติดมากับเพชร

• เพชรน้ำ 96% (H Color) สีแทบไม่ต่างจากเพชรเกรด G นับเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่ากว่า เพราะราคาถูกลง สามารถนำงบส่วนต่าง ไปลงกับคุณภาพเพชรในด้านอื่นแทนได้

• เพชรน้ำ 95% (I Color) มีสีเหลืองจางมาก ๆ หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณี ก็จะไม่สามารถสังเกตเห็นสีได้เช่นกัน

สีของเพชร

• เพชรน้ำ 94% (J Color) ถือเป็นตัวเลือกสุดท้าย หากต้องการเพชรในกลุ่มเกือบไร้สี เหมาะกับตัวเรือนทองคำขาว เพราะจะช่วยทำให้เพชรดูไม่เหลืองไปมากกว่าเดิม

• เพชรน้ำ 93% (K Color) สีเพชรอมเหลืองจาง เมื่อมองด้วยตาเปล่าจากหน้าเพชร จะเห็นสีเหลืองนวลชัดเจน ทำให้มีราคาถูกกว่าเพชรเกรด G – J พอสมควร

• เพชรน้ำ 92% (L Color) สีเพชรจะอมเหลืองจางเช่นกัน เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องประดับแนววินเทจ หรือต้องการซื้อเพชรกะรัตใหญ่ ในราคาที่ถูกลง

• เพชรน้ำ 91% (M Color) สีเพชรอมเหลืองจางอีกเช่นกัน ยิ่งตัวเพชรมีกะรัตสูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสังเกตเห็นสีเหลืองได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

• สีเพชร N, O, P, Q, R และ S Color เป็นเพชรที่อมเหลือง หรือน้ำตาล จึงไม่เป็นที่นิยม

• สีเพชร T, U, V, W, X, Y และ Z Color เป็นเพชรอมเหลือง หรือน้ำตาล ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน จึงไม่เป็นที่นิยมเช่นกัน

หากมีงบประมาณเพียงพอ การเลือกซื้อเพชรเกรด D – F ย่อมได้คุณภาพสีของเพชรที่ดีที่สุด

หากมีงบประมาณจำกัด เพชรเกรด G-I ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ด้วยสีของเพชรที่ใกล้เคียงกัน หากไม่ใช่ผู้เชียวชาญ ก็แทบจะแยกเกรดเพชรไม่ออกด้วยตาเปล่า และที่สำคัญเมื่อนำเพชรไปใส่บนเครื่องประดับ เช่น แหวน ก็แทบมองไม่เห็นสีปนเปื้อนเลยค่ะ

การเลือกสีของเพชร เป็นการตัดสินใจที่ต้องคำนึงถึงหลายๆ ปัจจัย เพื่อให้คุณได้เพชรที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นความชอบส่วนตัว งบประมาณ หรือ วัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น เอาไว้ใส่ในโอกาสพิเศษ หรือ เป็นของขวัญ ให้คนที่คุณรัก Waenthong Diamonds เราพร้อมช่วยคุณค้นหาเพชร ที่ลงตัวที่สุด ในแบบที่คุณต้องการ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ต้องการคำแนะนำในการเลือกซื้อเพชร สามารถติดต่อเราผ่านช่องทาง LineFacebookข้อความ Facebook หรือ ทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ Waenthong Diamonds ยินดีให้บริการ และพร้อมให้คำแนะนำ เพื่อให้คุณได้เพชรที่ตรงใจ และใช่ที่สุดสำหรับคุณค่ะ 

 

 

 

ทอง K คือ ทองอะไร

ทองเค (K) คือ ทองอะไร ใช่ทองแท้หรือไม่ ?

ทองเค (K) คือ ทองอะไร ใช่ทองแท้หรือไม่ ?

ทอง K คือ ทองอะไร

เรื่องของ ทองเค เป็นเรื่องที่คาใจ ของใครหลาย ๆ คนมานานว่า คือทองอะไร แท้ไหม ขายต่อ และจำนำได้หรือไม่ วันนี้แอดมินจะมาอธิบายให้เห็นความแตกต่าง พร้อมไขข้อสงสัยของทุกคนเองค่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักทองเค (K) กันก่อนค่ะ 

ทองเคคือทองบริสุทธิ์ ที่มีส่วนผสมของโลหะอื่น เช่น เงิน ทองแดง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความแข็งแรง และสามารถขึ้นรูปได้

ตัว “k” ที่อยู่ท้ายตัวเลข คือหน่วยค่าความบริสุทธิ์ของทอง ย่อมากจาก Karat (กะรัต) และตัวเลขข้างหน้า เช่น ทอง 9k คือตัวเลข ที่ใช้บอกว่ามีส่วนผสมของทองอยู่กี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ

ถ้าเราอยากรู้ว่าทองเคแต่ละชนิด มีส่วนผสมของทองอยู่กี่เปอร์เซ็นต์ สามารถคำนวณง่าย ๆ โดยเอาตัวเลขหน้า K หารด้วย 24 และ คูณด้วย 100 เช่น

ทอง 24k = 24 / 24 x 100 ก็จะได้เท่ากับ 100%

แปลว่า ทอง 24k มีส่วนผสมของทองอยู่ 99.99%

โดยทอง K แต่ละชนิด ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เหมาะกับการนำมาใช้ ดังนี้

ทอง 9k มีส่วนผสมของทองไม่เยอะ แต่ก็เป็นทองที่ได้รับความนิยม ในประเทศอังกฤษ และออสเตรเลีย เพราะมีสีสวย น้ำหนักเบา แข็งแรง ในประเทศไทยจึงนิยมนำมาทำเป็นตัวเรือนแหวนเพชร หรือ ทำเป็นตัวเรือนแหวนประดับพลอย

ทอง 18k เป็นทองที่ นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับมากที่สุด มีความแข็งแรงพอดี สามารถทำเป็นสีอื่น ๆ ได้ เช่น White Gold หรือ Pink Gold

ทอง 22K ในบ้านเรา จะนิยมเรียกกันว่า ทอง 90 มักนำมาทำเป็นแหวน หรือ กรอบพระ

ทอง 23k เป็นทองที่ร้านทองส่วนใหญ่นิยมนำมาขึ้นรูปเป็นทองรูปพรรณ เพราะเป็นทองที่มีความแข็งแรง และผสมเนื้อทองอยู่ในปริมาณมาก

ทอง 24k คือทองบริสุทธิ์ ซึ่งมีเนื้ออ่อนมาก จนไม่สามารถขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับได้ เราจึงนิยมนำทอง 24k มาทำเป็นทองแท่งมากกว่าค่ะ

ทองเค คือ ทองอะไร

ดังนั้นแอดมินขอสรุปตรงนี้เลยว่า ทองเค (K) ก็คือทองแท้นั่นแหละค่ะ เพียงแต่มีเปอร์เซ็นต์ทองบริสุทธิ์แตกต่างกัน จึงทำให้ มีราคาแตกต่างกันนั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นทอง 9K, 18K, หรือ 22K แต่ละชนิดก็มีเสน่ห์ และคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น ทอง 9K ที่น้ำหนักเบา และแข็งแรง ทอง 18K ที่นิยมนำมาทำเครื่องประดับ ได้ทั้ง White Gold หรือ Pink Gold  ฯลฯ และทอง 22K ที่นิยมทำเป็นแหวน หรือกรอบพระ จะเห็นได้ว่า การเลือกทองให้เหมาะกับสไตล์ และเหมาะสมกับการใช้งานเป็นเรื่องสำคัญ ที่ Waenthong Diamonds เราพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกทองที่ใช่ ตรงใจที่สุดสำหรับคุณ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Waenthong Diamonds จะได้รับความไว้วางใจ ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยคุณสร้างสรรค์เครื่องประดับ ที่สวยงาม และมีคุณค่าให้กับคุณในทุก ๆ โอกาสนะคะ

สนใจสั่งซื้อเครื่องประดับทอง กับ Waenthong Diamonds สามารถเข้าชมสินค้า และบริการ ได้ที่เวบไซต์ Waenthong Diamonds หรือติดต่อเราผ่านช่องทาง LineFacebook, Facebook Messenger  หรือทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดไหน แบบไหน หรือมีแบบที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว เราก็มีบริการทำตามแบบที่ต้องการ หรือออกแบบให้ใหม่ ด้วยโปรแกรม 3D เพื่อให้คุณลูกค้าได้เห็นงาน ก่อนขึ้นชิ้นงานจริง Waenthong Diamonds เรายินดีให้คำแนะนำ และบริการคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.cashexpress-pawn.com

ขั้นตอนเลือกซื้อแหวนเพชร

5 ขั้นตอนเลือกซื้อแหวนเพชรให้สวย ถูกใจ คุ้มค่าคุ้มราคา

5 ขั้นตอนเลือกซื้อแหวนเพชรให้สวย ถูกใจ คุ้มค่าคุ้มราคา

ขั้นตอนเลือกซื้อแหวนเพชร

สำหรับลูกค้าที่สนใจจะซื้อแหวนเพชรใส่เองหรือซื้อให้คนที่รัก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้แอดมินนำ 5 ขั้นตอนเลือกซื้อแหวนเพชรให้สวย ถูกใจ คุ้มค่าคุ้มราคามาฝากจ้า

1. กำหนดงบประมาณของแหวนเพชรที่อยากได้ เพื่อควบคุมวงเงินไม่ให้บานปลาย และนำงบประมาณที่ตั้งไว้มาคุยกับร้านเพชรเพื่อให้จัดสรรเพชรได้ตรงความต้องการอย่างรวดเร็ว ยิ่งปัจจุบันมีการคัดเกรดเพชรออกมาหลากหลายลูกค้าจึงสามารถซื้อเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามลายสวยด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก

2. ศึกษาหลักการดูเพชร 4Cs ได้แก่

Color (สีหรือความขาวของเพชร) โดยทั่วไปเพชรจะมีสีขาวจนไปถึงขาวอมเหลือง ดังนั้นเพชรที่ขาวใส ไม่มีสีจึงมีราคาแพงที่สุด

Clarity (ความสะอาดของเพชร) ธรรมชาติของเพชรย่อมมีตำหนิอยู่ภายใน ยิ่งเพชรมีความสะอาดมากราคาก็ยิ่งสูงตามไปด้วย

Cut (คุณภาพการเจียระไนเพชร) หากเพชรมีสัดส่วนการเจียระไนที่สมบูรณ์แบบ เพชรจะเล่นกับแสงไฟได้ดีสวยงามวิบวับและสะดุดตา

Carat Weight (น้ำหนักของเพชร) กะรัตหรือน้ำหนักของเพชรมีผลต่อราคามาก ยิ่งน้ำหนักเยอะราคาก็จะแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อคุณภาพและราคาของเพชร สามารถอ่านต่อแบบละเอียดได้ในบทความ อยากได้เพชรแท้ราคาถูก ต้องรู้อะไรบ้าง ได้เลยค่ะ

“ทองเค” คือทองบริสุทธิ์ที่มีส่วนผสมของโลหะอื่น เช่น เงิน ทองแดง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความแข็งแรงและสามารถขึ้นรูปได้

3. เลือกร้านเพชรที่น่าเชื่อถือมีความเชี่ยวชาญเรื่องเพชร มีบริการรับประกันสินค้ามีบริการหลังการขายและมีใบอนุญาตประกอบการมาอย่างถูกต้อง

4. เลือกเพชรที่ใช่และดีไซน์ที่ชอบหลังจากศึกษาปัจจัยทุกด้านแล้วก็ต้องมาพิจารณาว่าในงบประมาณที่วางเอาไว้เราให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุดเพราะในงบประมาณที่เท่ากันหากอยากได้เพชรขนาดใหญ่ก็สามารถลดความขาวและความสะอาดลงมาซักหน่อยได้เมื่อได้เพชรแล้วจึงเลือกตัวเรือนที่ถูกใจโดยปัจจุบันร้านเพชรมีตัวเรือนให้เลือกหลากหลายดีไซน์สามารถช่วยชูให้เพชรเด่นขึ้นและทำให้นิ้วของผู้สวมใส่ดูเรียวสวยเสริมบุคลิกภาพให้น่ามองอีกด้วย

5. ตรวจสอบความเรียบร้อยของแหวน เมื่อได้รับแหวนที่สั่งซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วลองสวมแหวนว่ามีขนาดพอดีกับนิ้วหรือไม่ และเช็คเลขใบเซอร์ว่าถูกต้องตรงกับเพชรเม็ดที่ซื้อหรือไม่

หลังจากรู้ขั้นตอนการเลือกซื้อแล้ว หวังว่าเมื่อถึงโอกาสพิเศษ ลูกค้าคงมีแหวนเพชรที่ถูกใจอยู่บนนิ้วมือกันนะคะ หรือง่ายที่สุด ลูกค้าสามารถ ทักไลน์หาแอดมิน และแจ้งงบประมาณได้เลยค่ะ ยินดีให้คำแนะนำเสมอค่ะ

 

 

4 วิธี วัดขนาดแหวนด้วยตนเอง ง่าย แม่นยำ ไม่ต้องพึ่งร้าน

4 วิธี วัดขนาดแหวนด้วยตนเอง ง่าย แม่นยำ ไม่ต้องพึ่งร้าน

4 วิธี วัดขนาดแหวนด้วยตนเอง ง่าย แม่นยำ ไม่ต้องพึ่งร้าน

4 วิธี วัดขนาดแหวนด้วยตนเอง ง่าย แม่นยำ ไม่ต้องพึ่งร้าน

อยากซื้อแหวนออนไลน์ แต่ไม่รู้ขนาดแหวน คงเป็นปัญหาของนักช้อปออนไลน์หลาย ๆ คน วันนี้ Waenthong Diamonds นำวิธีวัดขนาดแหวนที่แม่นยำ รวดเร็ว สามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้านมาฝาก ลองทำตามวิธีนี้ได้เลยค่ะ

1.นำกระดาษ A4 มาตัดให้เป็นเส้น ขนาดกว้างประมาณ 5 มม. ยาว 20 ซม. เพื่อให้จับถนัดมือ ใครไม่มีกระดาษสามารถใช้เส้นด้ายหรือสายวัดแทนได้นะ ระวังอย่าใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นเพราะอาจทำให้ขนาดแหวนคลาดเคลื่อนได้ค่ะ

2.นำกระดาษที่ตัดไว้มาพันรอบโคนนิ้วที่ต้องการสวมแหวนในลักษณะไขว้ แล้วดึงปลายกระดาษให้พอดีกับนิ้ว พยายามอย่าดึงกระดาษหลวมหรือแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้แหวนคับหรือหลวมเกินไปไม่พอดีกับนิ้วได้

3.หาจุดที่กระดาษมาบรรจบกันพอดี ใช้ปากกาขีดทำเครื่องหมายไว้ พยายามขีดเส้นให้ตรงที่สุดนะคะ ขนาดจะได้เป๊ะกับนิ้วของเรา

4.นำกระดาษส่วนที่ทำเครื่องหมายไว้มาทาบกับไม้บรรทัด (หน่วยมม.) ตัวเลขที่ได้คือเส้นรอบวงของแหวน สามารถนำไปเทียบในตารางเทียบไซส์แหวนได้เลย เช่น วัดได้ 54 มม. คือแหวนไซส์ 54 มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 17.2 มม. นั่นเอง

สำหรับคนที่มีแหวนอยู่แล้วสามารถนำไม้บรรทัดมาวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของแหวน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับตารางเทียบไซส์แหวนได้เลย ง่ายและสะดวกมาก ๆ 

เทคนิคสำคัญในการวัดขนาดแหวนคือการวัดให้พอดีกับนิ้ว ไม่ต้องวัดเผื่อผอม เผื่ออวบนะคะ เมื่อทำแหวนออกมาจะได้ใส่สบาย ไม่หลวมหรืออึดอัดจนเกินไป หากวันไหนแหวนเริ่มคับหรือหลวมจนใส่ไม่ได้ทักไลน์หา Waenthong Diamonds ได้เลยแม่ค้าพร้อมปรับขนาดแหวนให้จ้า

4 วิธี วัดขนาดแหวนด้วยตนเอง ง่าย แม่นยำ ไม่ต้องพึ่งร้าน
ใบโคลเวอร์ 4 แฉก” ตำนานสัญลักษณ์แห่งความโชคดี_1

“ใบโคลเวอร์ 4 แฉก” ตำนานสัญลักษณ์แห่งความโชคดี

“ใบโคลเวอร์ 4 แฉก” ตำนานสัญลักษณ์แห่งความโชคดี

ใบโคลเวอร์ 4 แฉก” ตำนานสัญลักษณ์แห่งความโชคดี_1

ใบไม้ 4 กลีบที่ทุกคนเห็นปรากฏอยู่บนเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็น จี้ห้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน หรือต่างหู มีชื่อเรียกว่าใบโคลเวอร์โดยทั่วไป ใบโคลเวอร์จะมีใบเพียงแค่ 3 กลีบเท่านั้น ว่ากันว่าในต้นโคลเวอร์ 10,000 ต้น จะพบใบโคลเวอร์ 4 กลีบได้เพียงต้นเดียวทำให้การพบใบโคลเวอร์ 4 กลีบ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมาก หากใครสามารถพบเจอ และมีไว้ครอบครองถือว่าเป็นผู้โชคดี เพราะในชีวิตอาจพบเจอเหตุการณ์นี้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว

ใบโคลเวอร์ 4 กลีบสามารถให้โชคได้ถึง 4 ประการ

กลีบแรก คือ ความหวัง (Hope)

• กลีบที่สอง คือ ความเชื่อมั่น และศรัทธา (Faith)

• กลีบที่สาม คือ ความรัก (Love)

กลีบสุดท้าย คือ ความโชคดี (Luck)

"ใบโคลเวอร์ 4 แฉก” ตำนานสัญลักษณ์แห่งความโชคดี

และเพราะความเชื่อนี้เอง ทำให้ปัจจุบันมีการนำเอาใบโคลเวอร์ มาเป็นเครื่องรางสัญลักษณ์ตัวแทนของความโชคดี หรือรักแท้ แพร่หลายไปทั่วโลก

ลูกค้า Waenthong Diamonds คนไหนที่อยากโชคดี และพบรักแท้ สนใจเครื่องประดับใบโคลเวอร์ ในแบบที่ชอบมาใส่ติดตัวไว้  ที่นอกจากจะช่วยเรื่องโชคลางแล้วยังสวยงามใส่ได้ทุกวันอีกด้วยค่ะ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อเครื่องประดับกับ Waenthong Diamonds สามารถเข้าชมสินค้า และบริการได้ที่เวบไซต์ Waenthong Diamonds หรือติดต่อเราผ่านช่องทาง LineFacebookข้อความ Facebook หรือทางโทรศัพท์ ได้เลยนะคะ Waenthong Diamonds เรายินดีให้คำแนะนำ และบริการคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ

 

ส่องลุค Pre Wedding ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของลูกชายตระกูล Ambani อภิมหาเศรษฐีอินเดีย

คนดูถึงกับตาแตก!! ส่องลุค Pre Wedding ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของลูกชายตระกูล Ambani อภิมหาเศรษฐีอินเดีย

คนดูถึงกับตาแตก!! ส่องลุค Pre Wedding ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของลูกชายตระกูล Ambani อภิมหาเศรษฐีอินเดีย

ส่องลุค Pre Wedding ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของลูกชายตระกูล Ambani อภิมหาเศรษฐีอินเดีย

กลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดีย เมื่อ Anant Ambani (อนันต์ อัมบานี่) น้องชายคนเล็กของครอบครัว Ambani อภิมหาเศรษฐีอินเดียได้จัดงาน Pre Wedding กับแฟนสาว Radhika Merchant (ราติกา เมอร์ชัน) ที่มีดีกรีเป็นถึงเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับเภสัชกรรมรายใหญ่ในอินเดีย ก่อนงานแต่งงานของทั้งคู่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมของปีนี้แอดมินขอพาทุกคนไปส่องลุคพรีเวดดิ้งสุดหรูของเจ้าสาวที่จะทำให้ทุกคนตาแตกไปกับความร๊วยยยยย

เริ่มจากชุดแรกว่าที่เจ้าสาวดูสวยสดใสในชุด Chikankari Ghagra โทนสีพาสเทลจับคู่กับเสื้อเบลาส์คอวีปักแบบตะวันตก เสริมด้วยสร้อยคอเพชรหรูหราและต่างหูโคมระย้า เบรกความอลังการด้วยกำไลข้อมือเพชรเรียบหรูเข้ากัน ประกอบกับการแต่งหน้าอ่อน ๆ ผมหางม้ารวบต่ำทำให้เธอดูสวยหวานละมุนเหมือนเจ้าหญิงมาก ๆ เลยค่ะ

ชุดที่ 2 ว่าที่เจ้าสาวจัดเต็มด้วยชุดเดรสสีแชมเปญเปิดไหล่ประดับด้วยงานปักอันประณีต เสริมด้วยสร้อยคอเพชรสองชั้นและต่างหูเพชรเม็ดโตดีไซน์หรูหรา และยังมีสร้อยและกำไลข้อมือที่ช่วยเสริมให้ลุคนี้ดูแพงขึ้นไปอีก แม้ทรงผมยังคงเป็นทรงหางม้ารวบต่ำเหมือนเดิมแต่ด้วยการจับคู่เครี่องเพชรที่ลงตัวทำให้ลุคนี้ของเธอดูหรูหราสุด ๆ

ชุดสุดท้ายว่าที่เจ้าสวมใส่ชุดเลเฮนกาสีทองซึ่งเป็นชุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้หญิงอินเดียเสริมด้วยเครื่องประดับแบบดั้งเดิมของประเทศอินเดียและที่ขาดไม่ได้คือสร้อยคอและต่างหูเพชรเข้าชุดที่ช่วยทำให้ว่าที่เจ้าสาวดูสวยโดดเด่นที่สุดในงาน

ส่องลุค Pre Wedding ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของลูกชายตระกูล Ambani อภิมหาเศรษฐีอินเดีย

เห็นแต่ละลุคของว่าที่เจ้าสาวแล้วบอกได้เลยว่าเทสดีและสวยมาก ฉลาดในการเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับเสื้อผ้าหน้าผม แม้จะใส่เครื่องเพชรเต็มตัวแต่ก็ยังดูละมุน และไม่ตะโกนจนเกินไป ว่าที่เจ้าสาวไทยลองนำทริคการใส่เครื่องประดับแบบคุณราติกาไปปรับใช้ได้นะคะ หรือหากไม่มั่นใจในการจับคู่ชุดเครื่องเพชร ก็สามารถส่งรูปชุดที่จะใส่ให้แอดมินแนะนำชุดเครื่องเพชรที่เข้ากันได้นะคะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://shaadiwish.com/